‘หู’ จัดเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญอีกชิ้นหนึ่งของมนุษย์ โดยหูมีหน้าที่รับเสียง แต่ถ้าหูของมนุษย์เกิดใช้การไม่ได้ขึ้นมา ก็จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก จำเป็นต้องฝึกการใช้ชีวิตโดยการปราศจากการได้ยินในหลายๆ ด้าน บางครั้งอาการหูที่ใช้การไม่ได้จะส่งผลปรากฏให้เห็นตั้งแต่วัยเยาว์ เด็กทารกที่ปราศจากความผิดปกติทางด้านการฟัง สามารถได้ยินเสียงของคุณแม่ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และเมื่อเด็กคลอดออกมา ประสาทสัมผัสแรกที่เขาสามารถรับรู้ได้ก็คือเสียง หากแต่ในช่วงแรกเด็กทารกจะได้ยินเสียงตามแบบฉบับของเขา และก็จะค่อยๆ พัฒนาได้ดีขึ้นเมื่อเขามีอายุครบ 1 ปีเต็ม และคุณพ่อ – คุณแม่จะมีวิธีไหนบอกให้ทราบได้ว่า ลูกของคุณบกพร่องทางการได้ยินตั้งแต่เป็นทารกบ้าง?
วันนี้สังเกตอาการหูหนวกในระยะเริ่มต้น
- เด็กเกิดใหม่ ตามปกติวิสัยของเด็กเกิดใหม่ หลังคลอดเขาจะส่งเสียงร้องออกมา ด้วยความความตกใจ การส่งเสียงของเด็ก จะแสดงให้คุณรับรู้ว่า เด็กมีพรับรู้เสียงอย่างชัดเจน ส่วนเด็กที่มีปัญหาทางการได้ยิน จะไม่แสดงอาการส่งเสียงร้องออกมาเท่าไหร่นัก มักจะร้องเมื่อหิวอาหาร หรือเจ็บป่วยหนักๆ เท่านั้น
- เด็กอายุ 3 เดือนขึ้นไป เมื่อคุณพูดหรือส่งเสียงเรียกเขา ถ้าไม่มีการตอบรับ ต้องรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน
- เด็กอายุ 6 เดือน ถ้าคุณส่งเสียงให้เขาได้รับรู้ และเขาได้ยิน เด็กจะแสดงพฤติกรรมเอียงหู หันหน้ามาทางคุณ ซึ่งเป็นผู้ส่งเสียงเรียก แต้ถ้าคุณไม่พบพฤติกรรมที่ได้กล่าวมา แสดงว่าอาจมีการสูญเสียการได้ยินไปบ้างแล้ว
- อายุ 8 – 12 เดือน โดยคุณสามารถสังเกตพฤติกรรมเด็ก จากการรับชมโทรทัศน์ ว่ามีพฤติกรรม เหมือนเด็กทั่วไปไหม เนื่องจากตามปกติแล้วถ้าเด็กรับชมการ์ตูน หรือดูโทรทัศน์ เด็กจะแสดงท่าทีว่าชอบ และสนุกสนานกับสิ่งที่เขาเห็นในการ์ตูน
- เด็กอายุ 2 ปี ตามปกติแล้วเมื่อเด็กมีอายุครบ 2 ปี ต้องมีการพูดคุยกับพ่อ – แม่ได้พอสมควรแล้ว หากแต่การรับรู้หรือการรับเสียง จะสมบูรณ์ที่สุดในอายุครบ 2 ปี แต่ถ้าเด็กมีความบกพร่องทางการได้ยิน ควรปรึกษาแพทย์ทันที
วิธีสังเกตเด็กหูหนวกอย่างชัดเจน คือ ถ้าเขามีอายุครบ 2 ปีแล้ว หากแต่ยังไม่พูดหรือปราศจากการโต้ตอบไม่เหมือนเด็กปกติทั่วไป แสดงว่าเด็กอาจพิการทางหูแล้ว หากแต่ในสมัยนี้ นวัตกรรมทางการแพทย์ มีความเชี่ยวชาญอีกทั้งยังมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยการรับรู้ทางหู ในบางครั้งถ้าได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ก็อาจกลับมาได้ยินเหมือนเด็กทั่วไปอีกครั้ง ขอแนะนำว่าคุณควรปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อทราบ