หลายคนรู้ว่าคนพิการเป็นอย่างไร พวกเขาเป็นคนที่บุคคลที่มีร่างกายไม่สมประกอบ อาจะเป็นหูหนวก เป็นใบ้ แขนขาไม่ครบ หรือไม่ก็พิการทางสมอง แต่สำหรับรัฐบาลมีการแบ่งลักษณะของผู้พิการออกเป็นกลุ่มๆ อย่างชัดเจน เป้าหมายก็เพื่อความสะดวกและประโยชน์ในการช่วยเหลือจากภาครัฐ ก่อนอื่นเราจะมารู้จัก 3 กลุ่มหลักของความพิการว่ามีอะไรบ้าง อย่างแรกเลยคือ “ความบกพร่อง” หมายถึงผู้ที่สูญเสียอวัยวะ หรือส่วนใดของร่างกาย ทำให้เป็นบุคคลพิการ ตาบอดหรือหูหนวกถือเป็นความบกพร่อง อย่างที่สอง “ข้อจำกัดในการทำกิจกรรม” หมายถึงผู้ที่มีพัฒนาการช้ากว่าคนปกติ ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ช้าหรือลำบากกว่า และสามคือ “ข้อจำกัดในการมีส่วนร่วม”
โดยข้อจำกัดความของผู้พิการจะบีบแคบลงมาอีกตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดโดยรัฐบาล สำหรับคน “พิการทางการมองเห็น” จะต้องมองเห็นน้อยกว่า 20 / 70 และมีลานสายตาแคบกว่า 30 องศา “พิการทางการได้ยิน” คือคนที่ได้ยินเสียงตั้งแต่คลื่นความถี่ 500 – 2000 เฮิรตซ์ด้วยความดังเกิน 55 เดซิเบล หรือคนที่พูดไม่ได้ สื่อสารไม่รู้เรื่อง “พิการทางการเคลื่อนไหว” หมายถึงคนที่มีร่างกายไม่สมประกอบ ใช้ชีวิตประจำวันลำบาก อย่างเช่นแขน ขา ขาด หรือเคลื่อนไหวไม่ได้ “พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม” คนอารมณ์ไม่ปกติ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด “คนพิการทางสติปัญญา” มีปัญหาในด้านการเรียนรู้ ไม่สามารถเข้าใจหรือสื่อความหมายได้
นอกจากนี้ยังแบ่งเป็นแบบละเอียดยิบย่อยได้อีก อย่างคนตาบอด ก็จะมีแบบ เห็นเลือนลาง และคนหูหนวก และหูตึง ในด้านสิทธิประโยชน์ที่ผู้พิการจะได้รับมีมากมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ในการดำเนินชีวิตในสังคม อย่างแรกคือค่าใช้จ่ายในการรักษา และค่าอุปกรณ์สำหรับคนพิการ ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะในชีวิต มีกองทุนกู้ยืมสำหรับนำไปประกอบอาชีพ โดยจะต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยจะต้องติดต่อพร้อมกับผู้ดูแลตามกฎหมาย มีการลดหย่อนค่าโดยสารสำหรับขนส่ง สำหรับการยื่นเรื่องขอทำบัตรประจำตัวคนพิการเพื่อรับสิทธิประโยชน์ ที่ทางรัฐบาลจัดเตรียมไว้ให้อย่างถูกต้องตามกฎหมายจะต้องเตรียมเอกสารดังนี้ง
- บัตรประชาชนเจ้าตัว และผู้ดูแล
- สำเนาทะเบียนบ้านเจ้าตัว และผู้ดูแล
- รูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป
- เอกสารรับรองความพิการ
โดยจะต้องเตรียมเอกสารมาอย่างละ 1 ฉบับตามรายละเอียด สำหรับรูปถ่าย 1 นิ้วจะต้องมีอายุไม่เกิน 6 เดือน ส่วนใบเอกสารรับรองความพิการจะต้องเป็นสถานพยาบาลของภาครัฐ หรือเอกชนตามที่กำหนด หากผู้พิการมีสภาพร่างกายไม่สมประกอบ แขน ขา ขาด หรือตาบอด เป็นอาการที่เห็นได้อย่างชัดเจนไม่ต้องใช้เอกสารรับรองความพิการแต่อย่างใด